หัวเรื่อง:ไม่มีชื่อไทย (ชื่ออังกฤษ : Nematode Hypocotyl Brown Rot of Durian) ผู้เขียน:อรุณ จันทนโอ สื่อสิ่งพิมพ์:pdf Abstract จากการสำรวจโรคพืชซึ่งเกิดจากไส้เดือนฝอยในบริเวณตำบลคลองหลวง อำเภอรังสิต จังหวัดพระนคร เมื่อปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2506 พบว่า ต้นทุเรียน (Durio zibelhinus Linn.) ปลูกอยู่ในบริเวณนั้นซึ่งยังมีขนาดเล็กอยู่ คือมี อายุประมาณ 2 ปี มีอาการแคระแกร็นไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร มีบริเวณใบน้อยและมีขนาดเล็กกว่าปกติโดยไม่ปรากฏว่ามีโรคพืชหรือแมลงสัตรูพืชรบกวน เมื่อนำดินและรากพืชไปตรวจดูได้พบไส้เดือนฝอยศัตรูพืชเป็นจำนวนมาก แต่อาการของโรคที่เกิดจากไส้เดือนฝอยชนิดนี้ที่น่าสนใจ คือ ไส้เดือนฝอยทำให้ป่องต้นทุเรียนอ่อนเน่า โดยที่มันเข้าไปอาศัยหากินอยู่ภายในเนื้อของต้นอ่อนของทุเรียนที่ชาวสวนทุเรียนเรียกว่า “ป่อง” หรือตรงกับส่วนที่ทางพฤกษศาสตร์ เรียกว่า “ไฮโปโคทิล” (hypocotyl) ซึ่งเป็นส่วนของต้นอ่อนทุเรียนที่งอกขึ้นมาจากเมล็ดที่อยู่ระหว่างใบเลี้ยงคู่แรกกับส่วนราก ส่วนป่องนี้เป็นบริเวณที่มีเซลล์อ่อนและเป็นที่สะสมอาหารสำหรับเลี้ยงต้นอ่อน ชาวสวนทุเรียนนิยมใช้ต้นอ่อนทุเรียนนี้ทาบกับต้นทุเรียนในสวน เพื่อเสริมรากให้ต้นทุเรียนนั้นมีมากขึ้นเพื่อช่วยในการหาอาหาร ไส้เดือนฝอยดังกล่าวจะทำลายส่วนนี้ทำให้เซลล์พืชตายเน่าเป็นสีน้ำตาลเข้ม ต้นอ่อนทุเรียนนั้นก็จะตายลง ทำให้การเสริมรากไม่ได้ผลตามต้องการ อาการเน่าของป่องทุเรียนอ่อน ก็คือ ป่องทุเรียนโดยปกติมีลักษณะอวบเต่งและมีสีเขียวอ่อน เมื่อไส้เดือนฝอยเข้ากินทำลายเนื้อเยื่อภายใน ป่องนั้นจะมีผิวเป็นสีน้ำตาลคล้ำและเหี่ยวเป็นรอยย่นไม่อวบเต่งเหมือนในต้นที่เป็นปกติ เมื่อบีบป่องด้วยนิ้วมือจะรู้สึกหยุ่นเนื้อไม่แน่น ถ้าผ่าป่องนั้นดูจะพบว่าเนื้อภายในมีสีน้ำตาลดำ มีลักษณะช้ำคล้ายฟองน้ำและเป็นน้ำชื้น ซึ่งผิดกับต้นที่ไม่เป็นโรคโดยที่เนื้อของป่องมีสีขาวและมีเนื้อแน่น นอกจากส่วนแกนกลางของต้นที่เป็นโรคเท่านั้นที่ไม่เน่ายังคงมีสีขาวเหมือนต้นปกติ เมื่อนำเอาเนื้อของป่องส่วนที่เน่าดำนี้ไปตรวจดูด้วยกล้องขยายแบบสเตอริโอ จะพบไส้เดือนฝอยอยู่ภายในเนื้อของป่องทุเรียนนี้เป็นจำนวนมาก |
หัวเรื่อง:ไม่มีชื่อไทย (ชื่ออังกฤษ : Isolation and Culture of Protoplasts from Different Explants of Cotton (Gossypium hirsutum L.)) ผู้เขียน:ดร.ประพนธ์ บุญรำพรรณ, Catherine Pannetier, Yves Chupeau สื่อสิ่งพิมพ์:pdf AbstractProtoplasts were isolated from callus, cotyledons, hypocotyls and leaves of cotton (Gossypium hirsutum L. var. Coker 310) using different digestion media. Protoplast yield per gram of fresh mass of leaves, callus cotyledons and hypocotyls was 22.2, 5.5, 1.7 and 1.1 million respectively. Protoplasts were most viable in basic medium in presence of thidiazuro 0.663 gm/l and 2, 4, 5-trichlorophenoxy acetic acid 7 mg/l. Hypocotyl and leaf-derived protoplasts formed microcolonies. Addition of CaCl2 and glutamine to the basic medium improved protoplast survival, and division of hypocotyl and leaf-derived protoplasts. The growth conditions, such as the light and carbon source of donor plant were the important factors for protoplast isolation and culture. |
ผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการThe mungbean VrP locus encoding MYB90, an R2R3-type MYB protein, regulates anthocyanin biosynthesisผู้แต่ง:Yun Lin, Dr.Kularb Laosatit, Assistant Professor, Jinyang Liu, Jingbin Chen, Xingxing Yuan, Dr.Prakit Somta, Associate Professor, Xin Chen, วารสาร: |
ผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการCharacterization of synthetic ecdysteroid analogues as functional mimics of brassinosteroids in plant growthผู้แต่ง:Dr.Jutiporn Thussagunpanit, Assistant Professor, Dr.Kanapol Jutamanee, Professor, Homvisasevongsa, S, Suksamrarn, A, Yamagami, A, Nakano, T, Asami, T, วารสาร: |
|
|
|
|
|
Researcherดร. ประกิจ สมท่า, รองศาสตราจารย์ที่ทำงาน:ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร กำแพงแสน สาขาที่สนใจ:พันธุกรรม และพันธุศาสตร์พืชตระกูลถั่วเขียวและพืชอื่นๆ ในสกุล Vigna รวมทั้งถั่วเหลือง, การปรับปรุงพันธุ์พืชโดยการใช้วิธีมาตรฐาน และเครื่องหมายโมเลกุล Resume |