รายละเอียดโครงการ

  • แหล่งทุน: [object Object]
  • ปีงบประมาณ: 2019
  • ลักษณะโครงการ: โครงการย่อยในชุดโครงการ "บูรณาการรูปแบบการตัดฟันไม้ยางพาราเพื่อมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ"
  • ประเภทโครงการ: ยังไม่ได้เลือกประเภทโครงการวิจัย
  • หัวหน้าโครงการ: ดร.ลัดดาวรรณ เหรียญตระกูล, ผู้ช่วยศาสตราจารย์
  • ผู้ร่วมวิจัย:

ความเป็นมาของโครงการ

จากแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558 - 2579 (AEDP2015) ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาพลังงานทดแทนให้เป็นพลังงานหลักของประเทศทดแทน การนำเข้าน้ำมันได้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศได้อย่างยั่งยืนนั้น มวลชีวภาพ (Biomass) เป็นหนึ่งในพลังงานทางเลือกที่ได้จากธรรมชาติ ทั้งจากพืชและสัตว์ ตัวอย่างมวลชีวภาพที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในประเทศไทย เช่น ชานอ้อย ฟางข้าว ซังข้าวโพด กะลาปาล์มน้ำมัน ตอซังสับปะรด เศษไม้ยางพารา และไม้กระถิน เป็นต้น ในภาคธุรกิจสวนป่านอกจากการใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ในส่วนของลำต้นแล้ว เศษเหลือจากการทำไม้ เช่น กิ่ง ก้าน ใบ และตอรากนั้นก็มีศักษภาพในการนำมาใช้ประโยชน์ด้านพลังงานทดแทนเช่นกัน โดยเฉพาะไม้ยางพารานั้นถือว่าเป็นแหล่งมวลชีวภาพขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ปลูกในประเทศไทยมากกว่า 22 ล้านไร่ มีการโค่นล้มเฉลี่ยปีละ 200,000 - 300,000 ไร่ การใช้ประโยชน์ไม้ยางพาราส่วนใหญ่คือ ลำต้นใช้ทำไม้วีเนียร์ ไม้แผ่น ไม้บาง และเผาถ่าน เป็นต้น ในส่วนของกิ่งก้าน และตอรากนั้นบางส่วนที่นำมาใช้ทำชิ้นไม้สับ (Wood chips) แต่ส่วนใหญ่จะถูกรวมกองและเผาในแปลง เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกในรอบถัดไป (Rianthakool, 2014) หากคิดเทียบน้ำหนักของกิ่ง ก้าน ใบ และตอรากรวมกันจะคิดเป็น 28% ของน้ำหนักไม้ทั้งต้น (นพรัตน์ และคณะ 2559) หรือปริมาณตอรากไม้ยางพาราเฉลี่ยประมาณ 5 ตันต่อไร่ (สำนักวิจัย ค้นคว้าพลังงาน, ม.ป.ป.) และจากรายงานของสำนักวิจัย ค้นคว้าพลังงาน (ม.ป.ป.) พบว่ามวลชีวภาพของตอรากไม้ยางพารา ในพื้นที่ภาคใต้ 14 จังหวัด มีปริมาณรวมทั้งสิ้นประมาณ 943,130 ตัน มีการนำมวลชีวภาพของตอรากไม้ยางพารา ไปใช้ประโยชน์แล้วประมาณ ร้อยละ 36 เท่านั้น โดยมีหลายปัจจัยที่ทำให้การนำเศษเหลือจากการทำไม้ยางพาราออกมาใช้ประโยชน์น้อย เช่น 1 การเก็บรวบรวมเศษเหลือและขนส่ง เนื่องจากเศษเหลือมีกระจัดกระจายอยู่ในแปลงยางพารา มีลักษณะกิ่งก้าน ตอรากที่จัดรวมกองได้ลำบาก ส่งผลให้บริหารจัดการยาก เสียค่าใช้จ่ายสูงในการเก็บรวบรวมและขนส่ง 2 แหล่งรับซื้ออยู่ไกล การตั้งโรงงานไฟฟ้า หรือโรงงานที่ใช้พลังงานจากมวลชีวภาพ หรือแหล่งรับซื้อเศษเหลือยังมีไม่มากและไม่ครอบคลุม อาจจะไม่คุ้มถ้าต้องขนส่งเศษเหลือจากการทำไม้ไปยังโรงงานที่อยู่ไกล ดังนั้นการพัฒนาปรับปรุงการเก็บเกี่ยวและขนส่งเศษเหลือจากการทำไม้ยางพารา ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรสวนยางพารา และเพิ่มวัตถุดิบให้กับโรงงานมวลชีวภาพ เป็นการใช้ทรัพยากรไม้ยางพาราให้เกิดประโยชน์สูงสุด การศึกษานีี้จะใช้พื้นที่สวนยางพาราในจังหวัดระยอง และตรังซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกยางพาราอยู่มากและมีความแตกต่างกันในหลายๆปัจจัย เช่น วิธีการทำไม้ แหล่งรับซื้อไม้ และรูปแบบการใช้ประโยชน์เนื้อไม้ยางพารา เป็นต้น ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับคือ เพิ่มศักษภาพในการใช้มวลชีวภาพจากไม้ยางพาราเพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางด้านพลังงานด้วยเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยวและขนส่งที่เหมาะสม

วัตถุประสงค์

1 เพื่อศึกษากระบวนการเก็บเกี่ยว และขนส่งมวลชีวภาพของไม้ยางพารา 2 เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนา ปรับปรุงกระบวนการ และการศึกษาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว และขนส่งมวลชีวภาพของไม้ยางพารา

Abstract

การศึกษาเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยวและขนส่งมวลชีวภาพของไม้ยางพารามีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษากระบวนการเก็บเกี่ยว และขนส่งมวลชีวภาพของไม้ยางพารา และ 2. เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนา ปรับปรุงกระบวนการ และการศึกษาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวและขนส่งมวลชีวภาพของไม้ยางพารา จากการเก็บข้อมูลภาคสนาม สามารถจำแนกระบบการทำไม้ยางพาราได้ 6 ระบบ ที่ใช้เครื่องมือแตกต่างกันในแต่ละขั้นตอนตั้งแต่ล้มไม้ ลิดกิ่ง ตัดทอน รวมกอง และยกไม้ขึ้นรถบรรทุก ผลิตภาพในหน่วยตัน (น้ำหนักของไม้ยางพารา) ต่อชั่วโมงจะถูกแสดงและเปรียบเทียบ นอกจากนี้ในขั้นตอนการขุดตอรากได้รวบรวมข้อมูลการศึกษาเวลาในการทำงานด้วยเช่นกัน

Outputs

Journals

# Journal
1 วัชรินทร์ สังข์สิงห์, ดร.ลัดดาวรรณ เหรียญตระกูล, ผู้ช่วยศาสตราจารย์, ดร.นพรัตน์ คัคคุริวาระ, รองศาสตราจารย์, "การเปรียบเทียบการทอนไม้สองวิธีที่หมอนไม้ กรณีศึกษาไม้ยางพาราในพื้นที่จังหวัดชุมพร", วารสารวนศาสตร์ไทย, ปีที่ 41, ฉบับที่ 2, กรกฎาคม - ธันวาคม 2022, หน้า 39 - 47

API url