รายละเอียดโครงการ
- แหล่งทุน: [object Object]
- ปีงบประมาณ: 2017
- ลักษณะโครงการ: โครงการย่อยในชุดโครงการ "การศึกษาระบบการทำไม้เพื่อการจัดการสวนป่าสักอย่างยั่งยืน กรณีศึกษา จังหวัดแพร่"
- ประเภทโครงการ: โครงการวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์
- หัวหน้าโครงการ: ดร.ชาคริต ณ ตะกั่วทุ่ง, ผู้ช่วยศาสตราจารย์
- ผู้ร่วมวิจัย:
ความเป็นมาของโครงการ
อุตสาหกรรมไม้ในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่สำคัญที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะไม้แปรรูปมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ในปีพ.ศ.2557 (กรมป่าไม้, 2558) หลังจากนโยบายปิดป่าของรัฐบาลในอดีต แหล่งที่มาของไม้สำหรับใช้งานคือสวนป่าที่มีการปลูกสร้างขึ้น ชนิดพันธุ์หลักสำหรับสวนป่าในประเทศไทยได้แก่ สัก และยูคาลิปตัส โดยงานสวนป่าในประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากลักษณะงานเป็นงานที่หนัก ต้องทำงานกลางแจ้ง ภายใต้สภาพอากาศที่ผันแปร และต้องใช้แรงในการทำงานเป็นหลัก การใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ทันสมัยในการทำงานยังมีข้อจำกัดเรื่องเทคโนโลยีที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้มีราคาสูง ยังไม่คุ้มค่าสำหรับการลงทุน งานป่าไม้โดยเฉพาะขั้นตอนการทำไม้ ซึ่งมีขั้นตอนหลัก ๆ คือ การล้มไม้ การหมายวัดตัดทอน การชักลากไม้ออกจากป่า โดยเฉพาะไม้สัก ท่อนไม้มีขนาดใหญ่กว่าไม้ยูคาลิปตัสมาก การใช้แรงงานคนจึงมีความเสี่ยงในการเกิดอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง กรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้น มักจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อร่างกาย ถึงขั้นต้องหยุดงานหรือไม่สามารถทำงานได้ต่อไป เมื่อผนวกกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีอยู่แล้ว ทำไห้ไม่สามารถหาคนมาแทนได้ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังกระบวนการทำงานโดยรวม ที่งานจะช้าลง ผลผลิตลดลง และหากทุกสวนป่าอยู่ภายใต้ความเสี่ยงแบบเดียวกันนี้ และเกิดปัญหาในรูปแบบเดียวกัน การส่งผลกระทบในภาพรวมของอุตสาหกรรมป่าไม้คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การศึกษาทางด้านการยศาสตร์ซึ่งเป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับงาน จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะสามารถชี้ให้เห็นถึงระดับภาระงานทางกายหรือความหนักเบาของงาน รวมถึงความเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บของคนงานอันเกิดจากท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุง ซึ่งอาจเป็นการปรับคนให้เข้ากับงาน หรือการปรับรูปแบบการทำงานให้เข้ากับคน การศึกษาครั้งนี้เลือกศึกษาการทำไม้สัก เนื่องจากเป็นชนิดไม้ที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในอุตสาหกรรมไม้แปรรูปของประเทศไทย นอกจากนี้ขนาดของไม้ที่ใช้ในอุตสาหกรรมมีขนาดใหญ่ คนงานมีความเสี่ยงสูงในการเกิดอันตราย จึงควรมีการศึกษาอย่างเร่งด่วน
วัตถุประสงค์
1) เพื่อศึกษาภาระงานทางกายของคนงานในขั้นตอนต่างๆของการทำไม้สัก
2) เพื่อศึกษาภาวะเสี่ยงของร่างกายที่เกิดจากท่าทางในการทำงานของคนงานในขั้นตอนต่างๆของการทำไม้สัก
3) เพื่อศึกษาผลของการปรับปรุงวิธีการทำงานต่อภาระงานและภาระเสี่ยงของร่างกาย
Abstract
การศึกษาเรื่องภาวะทางการยศาสตร์และความปลอดภัยของคนงานการทำไม้จากสวนป่าสักมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาระงานทางกายของคนงาน ภาวะเสี่ยงของร่างกายที่เกิดจากท่าทางในการทำงานของคนงาน ในขั้นตอนต่างๆของการทำไม้สัก และผลของการปรับปรุงวิธีการทำงาน โดยศึกษาในพื้นที่สวนป่าไม้สักขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ในเขตจังหวัดแพร่ โดยใช้วิธีวัดอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อประเมินภาระงานทางกาย และการใช้เทคนิคการประเมินท่าทางการทำงาน Rapid Upper Limb Assessment (RULA) และ Rapid Entire Body Assessment (REBA) เพื่อประเมินภาวะเสี่ยงของร่างกาย
ผลการศึกษาใน 1 ปีแรก พบว่าจากการศึกษาในสวนป่าจำนวน 3 สวน ได้แก่ สวนป่าวังชิ้น สวนป่าแม่สรอย และสวนป่าขุนแม่คำมี มีจำนวนคนงานที่สมัครใจให้เก็บข้อมูลจำนวน 45 9 และ 32 คน ตามลำดับ เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่างตำแหน่งงาน พบว่าค่าภาระงานทางกาย มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ โดยมีงาน 2 ระดับ คือเบาและปานกลาง งานที่มีภาระงานทางกายหนักที่สุดคืองานตัดทอน ผลการประเมินความเสี่ยงพบว่างานที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือการล้มไม้ ซึ่งจากผลการวิเคราะห์ทั้ง 2 วิธี เปรียบเทียบจาก 3 สวนป่า พบว่าแต่ละงาน มีความผันแปรกันระหว่างสวนป่า จึงสามารถถ่ายทอดวิธีการทำงานจากสวนป่าที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าไปยังสวนป่าที่มีความเสี่ยงมากกว่าเพื่อเป็นการปรับปรุงได้