API Result

Server URL

https://research.ku.ac.th/kurdi-api/api/v1/

Endpoint URL
API URL

URL: https://research.ku.ac.th/kurdi-api/api/v1/projects/20135520015006

Result
{
    "totalResult": 1,
    "startPage": 1,
    "itemsPerPage": 1,
    "entry": [
        {
            "projectDetail": {
                "forestUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/Project.aspx?ProjectNumber=5520015006&BudgetYear=2013",
                "projectID": "20135520015006",
                "projectName": "ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อการจัดการไฟป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง",
                "projectNameEn": "Decision Support System for Forest Fire Management in Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary",
                "source": {
                    "name": "ทุนอุดหนุนวิจัยมก.",
                    "type": "Internal"
                },
                "budget": 0,
                "organization": {
                    "orgID": "010404",
                    "name": "ภาควิชาวนวัฒนวิทยา คณะวนศาสตร์"
                },
                "type": "โครงการย่อยในชุดโครงการ \"นิเวศวิทยาของไฟและการจัดการไฟในป่าผสมผลัดใบ ภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง\"",
                "budgetYear": "2013",
                "startYear": "2012",
                "endYear": "2015",
                "head": "ดร.ปิยวัตน์ ดิลกสัมพันธ์, อาจารย์",
                "team": [
                    {
                        "sequence": 1,
                        "researcherID": "400163",
                        "prefix": "ดร.",
                        "researcherName": "ปิยวัตน์ ดิลกสัมพันธ์",
                        "academicPosition": "อาจารย์",
                        "position": "หัวหน้าโครงการ",
                        "type": "Internal Researcher",
                        "workRatio": 100
                    }
                ],
                "category": "โครงการวิจัยและถ่ายทอดงานวิจัยสู่ประชาชน(สำหรับศูนย์วิจัย/สถานีวิจัยในสังกัดของ มก.)",
                "background": "เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าเมื่อพูดถึงไฟป่าแล้ว ประชาชนทั่วไปจะมองว่าเป็นเหตุการณ์การที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบนิเวศ ทั้งในส่วนของพืชพรรณและสัตว์ป่า และในบางครั้งยังส่งผลต่อความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย โดยในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าไฟป่าในหลายๆ ประเทศในโลกได้สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นไม่ใช่เฉพาะในประเทศของตนแต่กลับส่งผลต่อประเทศข้างเคียง และกำลังเป็นเรื่องที่ถกเถียงถึงผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก\r\n\r\nสำหรับในประเทศไทยไทยนั้นได้มีการสำรวจพบไฟป่าอยู่ในหลายๆ พื้นที่ป่าในประเทศและส่วนใหญ่พบว่าเป็นไฟป่าที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ อันเกิดขึ้นทั้งจากความรู้เท่าไม่ถึงการของประชาชนที่ใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณข้างเคียงพื้นที่ป่าใน กิจกรรมเผาวัสดุเหลือใช้เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการเกษตรกรรมและไม่สามารถควบคุมการลุกลาม และจากความตั้งใจในการจุดไฟเพื่อขยายพื้นที่เพื่อทำเกษตรกรรม หรือเพื่อกิจกรรมการไล่ล่าสัตว์ป่า และส่งผลให้ประชาชนทั่วไปมองเห็นเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าเหล่านั้น และเหตุการณ์ของไฟป่าที่เข้าปกคลุมพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงฤดูแล้วก็เป็นตัวอย่างอีกประเด็นหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านไฟป่าในวงกว้างของกลุ่มคนที่มองเรื่องไฟป่าในเชิงลบ และเป็นแรงกดดันให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องพยายามป้องกันการเกิดไฟป่าให้ได้อย่างสิ้นเชิง เพื่อลดแรงกดดันอันเกิดจากประชาชน\r\nอย่างไรก็ตามไฟป่าไม่ได้ส่งผลในเชิงลบเพียงด้านเดียว ในระบบนิเวศบางชนิดโดยเฉพาะในป่าผลัดใบ เช่น ป่าเต็งรัง มีความต้องการไฟป่าเพื่อควบคุมความสมดุลของระบบนิเวศของป่าเต็งรังไว้ ทั้งในส่วนของโครงสร้างของป่า คุณสมบัติของดินและการหมุนเวียนของธาตุอาหารในดิน และในทางอ้อมไฟป่ายังช่วยรักษาแหล่งอาหารของสัตว์ป่าอีกด้วย และคงเป็นที่ยอมรับว่า ประชาชนที่พื้นที่บริเวณโดยรอบพื้นที่ป่า ยังมีพฤติกรรมที่จะพึ่งพาไฟในการดำรงชีวิต จึงเหมือนเป็นข้อมูลในเชิงวิชาการที่โต้แย้งกับกระแสการต่อต้านในปัจจุบัน\r\n\r\nงานวิจัยและงานวิชาการหลายๆ เรื่องได้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาถึงผลกระทบอันเกิดขึ้นจากไฟป่า ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่ยังขาดการรวบรวมให้เป็นระบบ และนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการไฟป่าอย่างเหมาะสม งานวิจัยครั้งนี้จึงมุ่งเน้นที่จะทำการรวบรวมข้อมูลทางด้านวิชาการที่เกี่ยวข้องกับไฟป่า มาจัดทำเป็นระบบสารสนเทศเพื่อใช้ข้อมูลพื้นฐานในการจัดการไฟป่า และด้วยเหตุที่การจัดการไฟป่าในแต่ละพื้นที่ และแต่ละสถานการณ์นั้นอาจมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไปงานวิจัยชิ้นนี้จึงมุ่งเน้นในการพัฒนาระบบที่สามารถวิเคราะห์เหตุการณ์เพื่อเสนอแนวทางเพื่อสนับสนุนการตัดสินในการจัดการไฟป่าในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้\r\n",
                "objective": "1. เพื่อศึกษาจัดทำฐานข้อมูลและพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการไฟป่า\r\n2. เพื่อศึกษาพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งและบริเวณใกล้เคียง\r\n3. เพื่อพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อนำไปใช้วางแผนในการจัดการไฟป่าในเชิงบูรณาการ\r\n",
                "abstract": "การพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อการจัดการไฟป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาจัดทำฐานข้อมูลและพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการไฟป่า ศึกษาพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ผ่าห่วยขาแข้งและบริเวณใหล้เคียง และพัฒนาระบบสนันสนุนการตัดสินใจเพื่อนำไปใช้วางแผนในการจัดการไฟป่าเชิงบูรณาการ\r\n\r\nในการดำเนินงานจะทำการวิเคราะห์การปฏิบัติงานของหน่วยงานในระดับพ้ืนที่อันประกอบไปด้วยสถานีควบคุมไฟป่า ศูนย์วิจัยไฟป่า และวิเคราะห์ความต้องการของหน่วยงานส่วนกลางอันได้แก ส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป่าและพันธุ์พืช ด้วยวิธัการสัมภาษณ์ และรวบรวมข้อมูลเกีย่วกับแบบฟอร์ม และรายงาน เพื่อนำมาวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างของฐานข้อมูลที่จำเป็น รวมถึงการศึกษางานวิจัยต่างๆ เพื่อประกอบในการจัดทำระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อการจัดการไฟป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง\r\n\r\nผลการศึกษาพบว่า ข้อมูลที่ใช้ประกอบในการพัฒนาระบบสนับสนุนการจัดสินใจประกอบไปด้วย กลุ่มข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมไฟป่า กลุ่มข้อมูลเก่ยวกับภารกิจด้านการควบคุมไฟป่า กลุ่มข้อมูลภารกิจด้านการประชาสัมพันธ์ กลุ่มข้อมูลภารกิจด้านการฝึกอบรมและการบรรยาย กลุ่มข้อมูลการตรวจลาดตระเวณ และกลุ่มข้อมูลการจัดทำแนวกันไฟ ซึ่งช้อมุลเหล่านี้จะดูนำไปใช้ในการพัฒนาระบบสนับสนุนการจัดสินใจในการจัดการไฟป่ต่อไป",
                "referenceUrl": "",
                "status": "Active"
            }
        }
    ]
}