https://research.ku.ac.th/kurdi-api/api/v1/
URL: https://research.ku.ac.th/kurdi-api/api/v1/projects/20115410443000
{ "totalResult": 1, "startPage": 1, "itemsPerPage": 1, "entry": [ { "projectDetail": { "forestUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/Project.aspx?ProjectNumber=5410443000&BudgetYear=2011", "projectID": "20115410443000", "projectName": "การศึกษานิเวศวิทยาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์", "projectNameEn": "The study of ecology to solve conflict between human and wild elephant around Phu Wor Wildlife Sanctuary , Nong Khai Province, Salak Pra Wildlife Sanctuary, Kanchanaburi Province and Kui Buri National Park, Prachuap Khirikhan Province", "source": { "name": "ทุนอุดหนุนวิจัยมก.", "type": "Internal" }, "budget": 300000, "organization": { "orgID": "010402", "name": "ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์" }, "type": "โครงการเดี่ยว", "budgetYear": "2011", "startYear": "2011", "endYear": "2012", "head": "ดร.รองลาภ สุขมาสรวง, รองศาสตราจารย์", "team": [ { "sequence": 1, "researcherID": "480026", "prefix": "ดร.", "researcherName": "รองลาภ สุขมาสรวง", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "position": "หัวหน้าชุดโครงการ", "type": "Internal Researcher", "workRatio": 70 }, { "sequence": 2, "researcherID": "400074", "prefix": "นาย", "researcherName": "วุฒิชัย กปิลกาญจน์", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "position": "ที่ปรึกษาโครงการ", "type": "Internal Researcher", "workRatio": 0 }, { "sequence": 3, "researcherID": "240280", "prefix": "ดร.", "researcherName": "สามัคคี บุณยะวัฒน์", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "position": "ที่ปรึกษาโครงการ", "type": "Internal Researcher", "workRatio": 0 }, { "sequence": 4, "researcherID": "400162", "prefix": "ดร.", "researcherName": "ดำรงค์ ศรีพระราม", "academicPosition": "อาจารย์", "position": "ที่ปรึกษาโครงการ", "type": "Internal Researcher", "workRatio": 0 }, { "sequence": 5, "researcherID": "240424", "prefix": "ดร.", "researcherName": "วรวิทย์ วัชชวัลคุ", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "position": "ที่ปรึกษาโครงการ", "type": "Internal Researcher", "workRatio": 0 }, { "sequence": 6, "researcherID": "420062", "prefix": "ดร.", "researcherName": "นริศ ภูมิภาคพันธ์", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "position": "ผู้ร่วมวิจัย", "type": "Internal Researcher", "workRatio": 15 }, { "sequence": 7, "researcherID": "480025", "prefix": "ดร.", "researcherName": "ยงยุทธ ไตรสุรัตน์", "academicPosition": "ศาสตราจารย์", "position": "ผู้ร่วมวิจัย", "type": "Internal Researcher", "workRatio": 15 } ], "category": "โครงการวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์", "background": "ช้างป่าเป็นสัตว์ป่าที่อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ (endangered species) นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน (IUCN, 2010) สาเหตุหลักมาจากการทำลายพื้นที่อาศัยตามธรรมชาติ และถูกฆ่า จนแนวโน้มของประชากรลดลงในทุกแหล่งการกระจาย จากความต้องการใช้ที่ดินเพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรมนุษย์ที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันในประเทศไทยมีช้างป่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติเพียงประมาณ 3,000 ตัว ในพื้นที่อนุรักษ์บางแห่งเท่านั้น (เกษมสันต์, 2552) \r\n\r\nเมื่อพิจารณาสภาพทางกายภาพด้านขนาดถิ่นที่อาศัยของช้างป่าที่มีขนาดเล็กลง ถูกแบ่งแยก ตัดขาดออกจากป่าผืนอื่น เกิดความเสื่อมโทรม ตามที่ปรากฏในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วไปของประเทศไทย นับเป็นปัจจัยผลักดันให้ช้างออกมาจากป่าก่อความขัดแย้ง นอกจากนี้การปลูกพืชเกษตรส่วนใหญ่ และการพัฒนาแหล่งน้ำรอบพื้นที่ป่าที่มีช้าง มีส่วนดึงดูดให้ช้างออกมาจากพื้นที่ธรรมชาติมากขึ้น ประกอบกับทัศนคติของคนในประเทศต่อช้างว่ามีความสำคัญกว่าสัตว์ป่าชนิดอื่น ทำให้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่นอกจากทวีความรุนแรงแล้ว ยังเป็นปัญหาที่มีความสำคัญในการจัดการด้วย \r\n\r\nการศึกษานิเวศวิทยาของช้างป่าในพื้นที่ธรรมชาติของประเทศไทย ตลอดจนสภาพปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มีการศึกษาน้อยมาก ทั้งยังขาดการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบ แม้ว่าแนวทางในการเก็บรักษาประชากรของช้างป่าที่ดีที่สุดคือการเก็บรักษาไว้ในพื้นที่อนุรักษ์ตามธรรมชาติ และจัดการอย่างเหมาะสม ก็ตาม\r\n\r\nพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต่างตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของประเทศไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และทางด้านใต้ ของประเทศ มีช้างป่าอาศัยอยู่ ประมาณ 30-40 ตัว 150 – 200 และ 150 ตัวตามลำดับ (กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, 2552) มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าอย่างยาวนานเหมือนกัน อย่างไรก็ตามแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ตามความแตกต่างทางกายภาพของพื้นที่ สภาพอากาศ ขนาดขอบเขตของพื้นที่ สภาพถิ่นที่อาศัย รวมทั้งประวัติวิวัฒนาการความเป็นมาของพื้นที่ การเชื่อมต่อกันในอดีตของผืนป่าดังกล่าว กับบริเวณโดยรอบ \r\n\r\nการศึกษาครั้งนี้ จึงมุ่งที่ต้องการตอบปัญหาในเรื่องจำนวนประชากร โครงสร้าง ชั้นอายุในประชากร การเลือกใช้พื้นที่อาศัย พืชอาหาร ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อการผลักดัน และดึงดูด ให้ช้างป่าออกมานอกพื้นที่ ระดับความรุนแรงของความขัดแย้งกับราษฎร การแก้ปัญหาในแต่ละพื้นที่ศึกษา \r\n\r\nกรณีปัจจัยทางกายภาพของพื้นที่ ภายในพื้นที่อนุรักษ์จะศึกษาถึงขนาดของถิ่นอาศัย (effective area) และถิ่นอาศัยโดยรวม ประเมินความเหมาะสมของพื้นที่อาศัยในพื้นที่อนุรักษ์ตัวอย่าง การศึกษาขนาด และจำนวนต้นไม้ พืชอาหาร ศึกษาปัจจัยที่ผันแปรตามฤดูกาล ที่อาจมีผลต่อการออกมารบกวนราษฎร \r\n\r\nการศึกษาสภาพแวดล้อมบริเวณพื้นที่ที่เกิดสภาพปัญหาความขัดแย้ง ดำเนินการศึกษาทั้งทางกายภาพ ได้แก่ ขนาด และสภาพของพื้นที่ แหล่งน้ำ การเพาะปลูก ชนิดพืชเกษตรที่ประสบปัญหา ตลอดจนแนวทางที่ใช้ในการแก้ปัญหาในแต่ละพื้นที่\r\n\r\nการศึกษารวมรวมข้อมูลทั้งในพื้นที่อนุรักษ์ตัวอย่าง และบริเวณพื้นที่ที่เกิดปัญหาความขัดแย้ง สามารถนำมาประมวลให้ทราบถึงความสัมพันธ์ของความขัดแย้งในรูปของสมการทางนิเวศ หรือ โมเดล กับปัจจัยแวดล้อมที่คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกัน สมควรได้มีการศึกษา เพื่อใช้เป็นตัวแทนของประเทศ และนำมาใช้อธิบาย คาดการณ์ ให้ข้อเสนอแนะการจัดการการอนุรักษ์ช้างป่า และแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทั้งในพื้นที่นี้ และพื้นที่แห่งอื่นตามความต้องการ ก่อประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมและประเทศต่อไป \r\n", "objective": "1. ศึกษาความหนาแน่นประชากร โครงสร้างชั้นอายุ และสัดส่วนเพศในแต่ละพื้นที่\r\n2. ศึกษาชนิดพืชอาหาร\r\n3. ศึกษาสภาพที่อาศัย สภาพทางกายภาพ ขนาด ขอบเขตพื้นที่อาศัย\r\n4. ศึกษาความสัมพันธ์กับสัตว์ป่าชนิดอื่น\r\n5. ศึกษาปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างคน กับช้างป่าในพื้นที่ ระดับความรุนแรงของการรบกวนในแต่ละพื้นที่ และปัจจัยแวดล้อมทั้งทางกายภาพ และชีวภาพที่มีผลต่อความขัดแย้งในพื้นที่\r\n6. ศึกษาแบบจำลองความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางนิเวศ และสภาพแวดล้อมที่คาดว่ามีผลให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ชีวภาพ และสภาพเศรษฐกิจสังคมบางประการ แนวทางในการแก้ปัญหา เช่น ความหนาแน่นประชากรกับระดับความขัดแย้ง ฤดูกาล สภาพพื้นที่อาศัย กับระดับความรุนแรงของการรบกวนที่ได้จากการศึกษาในแต่ละพื้นที่\r\n", "abstract": "การศึกษานิเวศวิทยา เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคน กับช้างป่าบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬ ดำเนินการระหว่าง ปี พ.ศ. 2552 ถึง พ.ศ. 2554 เพื่อศึกษาลักษณะประชากร ชนิดอาหาร ปัจจัยแวดล้อมที่มีผลต่อการปรากฏของช้างป่า ศึกษาการออกมาหากินพืชเกษตร เพื่อใช้แก้ปัญหาความขัดแย้ง ผลการศึกษาพบว่า ความหนาแน่นกองมูลช้างป่ามีค่า 475.47 กอง/กม2 อัตราการสลายตัวของกองมูลช้างป่ามีค่าเฉลี่ย 0.0030 กอง/วัน ความหนาแน่นประชากรช้างป่ามีค่า 0.10 ตัว/กม2 ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนประชากรที่ได้จากการนับโดยตรง ที่พบจำนวน 24 ตัว โครงสร้างประชากร คิดเป็นสัดส่วนช้างตัวเต็มวัย: ช้างก่อนเต็มวัย: ช้างวัยรุ่น: ลูกช้าง เป็น 4: 1.67: 1.33: 1 ตามลำดับ ขณะที่โครงสร้างประชากรจากการวัดเส้นรอบวงรอยตีนหน้าที่ปรากฏบนพื้นทราย เท่ากับ 8.50: 4.50: 2.50: 1 ในช้างตัวเต็มวัย: ช้างก่อนเต็มวัย: ช้างวัยรุ่น: ลูกช้าง สัดส่วนเพศช้างเพศผู้เต็มวัยต่อเพศเมียเต็มวัย เท่ากับ 1: 3 การเกิดในประชากรมีค่า 6.73% ต่อปี ขณะที่มีการตาย มีค่า 4.17% เมื่อ เปรียบเทียบโครงสร้างประชากร สัดส่วนเพศตัวเต็มวัย สัดส่วนเพศเมียต่อลูกในประชากร และการเพิ่มพูนในประชากรช้างป่าแห่งนี้กับพื้นที่อนุรักษ์แห่งอื่นพบว่าใกล้เคียงกัน พืชอาหารในธรรมชาติที่กินพบรวม 45 ชนิด จาก 30 วงศ์ พบธาตุอาหารในแหล่งโป่งมีปริมาณน้อย ปัจจัยแวดล้อมที่มีผลต่อการเลือกใช้พื้นที่อาศัยได้แก่ ประเภทป่า ปัจจัยที่มีผลรองลงมา ได้แก่ ระยะห่างจากถนนทุกการสัญจร หมู่บ้าน หน่วยพิทักษ์ป่า และพบว่ามีความคล้ายคลึงกันระหว่างหน้าแล้ง และหน้าฝน ขนาดพื้นที่อาศัยที่เหมาะสมมากของช้างป่าในพื้นที่ช่วงหน้าแล้งมีขนาด 18.60 กม2 ขณะที่ในช่วงหน้าฝนมีขนาด 13.44 กม2 เนื่องจากปัจจัยที่มีผลต่อการปรากฏของช้างป่าส่วนใหญ่อยู่ภายนอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พบช้างป่าออกมาหากินในพื้นที่เกษตรกรรมใน 8 หมู่บ้าน รวม 43 ครั้ง แนวโน้มของการออกมานอกพื้นที่ในแต่ละหมู่บ้านไม่แตกต่างจากในอดีตที่พบรวม 90 ครั้ง ใน 20 หมู่บ้าน ช้างป่ามักออกมานอกพื้นที่ตลอดทั้งปี แต่ส่วนใหญ่พบออกมาหากินในพื้นที่เกษตรในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน และช่วงเดือน ตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน เวลาที่ช้างออกมานอกพื้นที่ส่วนใหญ่พบระหว่างเวลา 23.00 น. ถึงเวลา 05.00 น. พืชเกษตรที่ถูกกินพบรวม 17 ชนิด จากที่พบว่าได้รับความเสียหาย 25 ชนิด คิดมูลค่าความเสียหายจากการประเมินเพื่อจ่ายค่าชดเชยเฉลี่ยปีละ 73,525 บาท การจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ที่สำคัญในอนาคตได้แก่การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน การใช้ประโยชน์ทรัพยากรสัตว์ป่า การส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการอนุรักษ์ช้างป่า โดยได้เสนอไว้ในผลการศึกษานี้", "referenceUrl": "", "status": "Closed" }, "outputs": [ { "output": { "forestUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/Publish.aspx?PublishID=5299", "outputID": "1-1-5299", "referenceProjectID": "20115410443000", "title": "population density of Asian Elephant in Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary", "source": "วารสารวนศาสตร์ (Thai Journal of Forestry)", "class": "National", "yearStart": "2009", "monthStart": "03", "yearEnd": "2009", "volume": "28", "issue": "1", "pageStart": "40", "pageEnd": "50", "issn": "08571724", "type": "Journal", "documentType": "", "formulaTier": "N/A", "authors": [ { "sequence": 1, "researcherID": "480026", "prefix": "ดร.", "firstname": "รองลาภ", "lastname": "สุขมาสรวง", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "fullName": "รองลาภ สุขมาสรวง", "orgID": "010402", "campusName": "บางเขน", "facultyName": "คณะวนศาสตร์", "departmentName": "ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้", "image": "480026.jpg", "imageUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/ForestImages/Picture/Person/", "authorType": "Internal", "isResponsible": false } ] } }, { "output": { "forestUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/Present.aspx?PresentID=27258", "outputID": "2-1-27258", "referenceProjectID": "20115410443000", "title": "พฤติกรรมและชนิดพืชอาหารของลิงไอ้เงี๊ยะ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ", "source": "การประชุมการป่าไม้ พ.ศ. 2561 การปฏิรูปป่าไม้แห่งชาติ", "class": "National", "presentDate": "2018-08-23T00:00:00", "yearStart": 2018, "monthStart": 8, "endDate": "2018-08-23T00:00:00", "yearEnd": 2018, "monthEnd": 8, "country": { "name": "ประเทศไทย", "alternateName": "Thailand", "shortName": "ไทย" }, "type": "Conference", "PresentCause": "ได้รับเชิญ", "submitType": "ภาคบรรยาย", "ArticleType": "เรื่องเต็ม", "authors": [ { "sequence": 1, "fullName": "นายวุฒิศักดิ์ คุ้มหมู่", "departmentName": "ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์", "image": "default.jpg", "authorType": "External", "isResponsible": false }, { "sequence": 2, "researcherID": "480026", "prefix": "ดร.", "firstname": "รองลาภ", "lastname": "สุขมาสรวง", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "fullName": "รองลาภ สุขมาสรวง", "orgID": "010402", "campusName": "บางเขน", "facultyName": "คณะวนศาสตร์", "departmentName": "ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้", "image": "480026.jpg", "imageUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/ForestImages/Picture/Person/", "authorType": "Internal", "isResponsible": true } ] } }, { "output": { "forestUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/Publish.aspx?PublishID=11415", "outputID": "1-1-11415", "referenceProjectID": "20115410443000", "title": "นิเวศวิทยาของช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตวืป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬ", "source": "วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย", "class": "National", "yearStart": "2012", "monthStart": "12", "yearEnd": "2012", "monthEnd": "12", "volume": "19", "issue": "1", "pageStart": "13", "pageEnd": "22", "issn": "0858396X", "type": "Journal", "documentType": "", "formulaTier": "TCI_G3", "authors": [ { "sequence": 1, "researcherID": "480026", "prefix": "ดร.", "firstname": "รองลาภ", "lastname": "สุขมาสรวง", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "fullName": "รองลาภ สุขมาสรวง", "orgID": "010402", "campusName": "บางเขน", "facultyName": "คณะวนศาสตร์", "departmentName": "ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้", "image": "480026.jpg", "imageUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/ForestImages/Picture/Person/", "authorType": "Internal", "isResponsible": true }, { "sequence": 2, "fullName": "นางสาวรัชนี โชคเจริญ", "departmentName": "ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ ", "image": "default.jpg", "authorType": "External", "isResponsible": false } ] } }, { "output": { "forestUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/Present.aspx?PresentID=11411", "outputID": "2-1-11411", "referenceProjectID": "20115410443000", "title": "ความหลากหลายทางพันธุกรรมของช้างป่า (Elephas maximus Linnaeus, 1758)ในป่าอนุรักษ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยบางแห่ง", "source": "การสัมมนาเรื่องสัตว์ป่าเมืองไทย ครั้งที่ 31", "class": "National", "presentDate": "2010-12-17T00:00:00", "yearStart": 2010, "monthStart": 12, "endDate": "2010-12-17T00:00:00", "yearEnd": 2010, "monthEnd": 12, "city": "กรุงเทพฯ", "country": { "name": "ประเทศไทย", "alternateName": "Thailand", "shortName": "ไทย" }, "type": "Conference", "PresentCause": "ได้รับเชิญ", "submitType": "ภาคบรรยาย + ภาคโปสเตอร์", "ArticleType": "Abstract อย่างเดียว", "authors": [ { "sequence": 1, "researcherID": "480026", "prefix": "ดร.", "firstname": "รองลาภ", "lastname": "สุขมาสรวง", "academicPosition": "รองศาสตราจารย์", "fullName": "รองลาภ สุขมาสรวง", "orgID": "010402", "campusName": "บางเขน", "facultyName": "คณะวนศาสตร์", "departmentName": "ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้", "image": "480026.jpg", "imageUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/ForestImages/Picture/Person/", "authorType": "Internal", "isResponsible": false }, { "sequence": 2, "researcherID": "530074", "prefix": "นาย", "firstname": "วุฒินันท์", "lastname": "ไอยราพัฒนา", "academicPosition": "อาจารย์", "fullName": "วุฒินันท์ ไอยราพัฒนา", "orgID": "025803", "campusName": "วิทยาเขตกำแพงแสน", "facultyName": "คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์", "departmentName": "โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน", "image": "530074.jpg", "imageUrl": "https://research.ku.ac.th/forest/ForestImages/Picture/Person/", "authorType": "Internal", "isResponsible": false } ] } } ] } ] }